<<<<<<<ทุกอย่างบนโลกนี้ล้วนมีต้นทุนของมันทั้งนั้น>>>>>>>>
ลูกค้า : สวัสดีครับช่างสอบถามนิดนึงครับ ตอนนี้รถผมเกียร์ออโต้เสีย รุ่นนี้ ปีนี้ ช่างซ่อมอยู่ราคาเท่าไหร่ครับ
เอ. เอ็ม : อ๋อ...รุ่นนี้ของพี่ ผม โอเวอร์ฮอลอยู่หลักแสนครับ
ลูกค้า : ตั้งราคาอย่างนี้อย่าคิดว่าลูกค้าโง่ซิ , ที่อื่นเขาซ่อมกันหลักหมื่นเอง
เอ. เอ็ม : มาแนวนี้ใช่ไหมเดี๋ยวจัดให้ (คิดในใจ)
เอ. เอ็ม : พี่ครับรถรุ่นนี้ของพี่ตอนซื้อมาใหม่ๆราคา สี่ .. ห้า ล้านไม่ใช่หรือครับ? ซ่อมเกียร์หลักแสนแปลกตรงไหนเหรอครับ ? พี่ลองเช็คมือ 1 จากศูนย์หรือยังครับว่าราคากี่ แสน ?
ลูกค้า : ที่อื่นซ่อมกันหลักหมื่นรับประกันก็ 1 ปีเท่ากับของคุณ, แล้วคุณจะมาคิดผมหลักแสนเนี่ยนะ !!!
เอ. เอ็ม : พี่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง ซ่อม กับ โอเวอร์ฮอล กับเกียร์มือสอง กับเกียร์ลูกใหม่ ว่ายังไงบ้างครับ ? ลูกมือสองก็มีสองแบบอีกพี่รู้ไหมครับ ? แบบแรกคือมือสองแท้แท้ร้านเขาซื้อมายังไงก็ขายให้ลูกค้าไปอย่างนั้น ,แบบที่ 2 เกียร์มือ สอง แต่ร้านเขารื้อแล้วก็เปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายบางตัวแล้วขายเป็นมือสองรับประกันให้พี่ 7 วัน 15 วัน , พี่ลองเช็คแล้วยังครับว่าเกียร์ลูกนี้มือสองราคาเท่าไหร่ ? ที่ผมเช็คได้อยู่ประมาณ 85,000 - 90,000 รับประกัน 15 วัน ,รวมค่าแรงค่าน้ำมันก็น่าจะมีประมาณ 95,000 - 100,000
ลูกค้า : ผมโทรไปสอบถาม 2- 3 ร้านเขาก็ทำกันประมาณ 3 - 4 หมื่น
เอ. เอ็ม : เฉพาะค่าอะไหล่ เอาแบบของดีๆ,เอาแบบครบๆ ยังแพงกว่าราคาที่พี่ว่ามาเลยนะครับ , ถ้าเปลี่ยนเฉพาะโอริง 2, 3 ตัวแผ่นคลัช 2 ,3 แผ่นแล้วรับ 3 - 4 หมื่น ผมว่ามันก็น่าทำเหมือนกันนะเนี่ยหรือว่าผมจะเปลี่ยนแนวไม่ต้องโอเวอร์ฮอลมันแล้วเอาซ่อมดีกว่าเปลี่ยนเฉพาะบางตัวรับทีละ 3 - 4 หมื่น , แล้วก็บอกลูกค้าว่ารับประกันงาน 1 ปีเหมือนกัน,ถ้ารอดก็ดีไปรับเหนาะๆ แต่ถ้าเกิดว่ามันไม่รอดก็ค่อยบอกกับลูกค้าว่า พี่จะเอาอะไรมากรถพี่ราคา สี่ .. ห้า ล้าน ผมซ่อมให้พี่ 3-4 หมื่น ก็ได้แค่นี้แหละ , ถ้าไม่พอใจพี่ทิ้งรถไว้เดี๋ยวผมดูให้ใหม่ก็แล้วกัน , พี่พอจะคุ้นคุ้นหรือเคยได้ยินอะไรประมาณนี้หรือเปล่าครับ,
ลูกค้า : เอ๋อ…..
เอ. เอ็ม : ใจเย็นๆพี่ ยังไม่จบ …ในระหว่างที่พี่รอ,ถ้ามีรถรุ่นเดียวกันกับของพี่เข้ามาซ่อมแล้วมีอะไหล่บางตัวที่เสียเขาก็สามารถถอดอะไหล่จากรถพี่ใส่ให้ลูกค้ารายใหม่แล้วเอาของเสียกลับมาใส่ให้รถพี่, ในระหว่างที่พี่รออย่างสบายใจ,พอเข้าเดือนที่ 2 พี่โทรไปหาช่างถามว่าเป็นยังไงบ้างครับถึงไหนแล้ว ,อ๋อ..รออะไหล่อยู่ครับอะไหล่ยังไม่มาเลย, ในระหว่างนั้นอะไหล่ในรถพี่ก็ค่อยๆหายไปทีละอย่างสองอย่าง , พอเข้าเดือนที่ 3 พี่ก็โทรไปอีกช่างก็บอกว่าอะไหล่หายากมาก รอนิดนึงนะครับพี่ , พอเข้าเดือนที่ 4 ก็ได้คำตอบว่าต้องรออะไหล่อีก ถึงตอนนี้ ในใจพี่ก็คงจะคิดว่า “อะไหล่มึงผลิตที่ดาวอังคารเหรอ 4 เดือนผ่านไปยังมาไม่ถึงเนี่ย” แล้วพี่ก็ต้องจำใจลากออกไปทำที่อื่น มารู้ตัวอีกทีว่าอะไหล่หลายๆชิ้นหายไปหรือโดนสลับเอาของเสียมาใส่ให้ , ถึงตอนนี้พี่ก็คงจะเซ็งไม่รู้จะเซ็งยังไงแล้ว เกียร์ก็ไม่จบอะไหล่ก็โดนขโมย ,
ลูกค้า : ผมคงไม่โดนอย่างนั้นหรอกมั้งครับ
เอ. เอ็ม : ทุกคนที่โดนมาก็คิดเหมือนพี่ทุกคนแหละครับ
เอ. เอ็ม : โอเคกลับมาที่คำพูดของพี่ที่ว่าอย่าคิดว่าลูกค้าโง่ ,ผมไม่เคยคิดว่าพี่โง่ ผมมีหน้าที่ให้ข้อมูลตามความเป็นจริงส่วนพี่จะคิดยังไงมันก็เรื่องของพี่ , ถ้าพี่เป็นผม ลูกค้ายินดีจ่าย 9 หมื่นกว่าเพื่อจะได้ของมือสองรับประกัน 15 วัน,ในขณะที่พี่เปลี่ยนอะไหล่ไหม่หมดใช้ของอย่างดีทำอย่างปราณีตรับประกันให้ 1 ปี , มันยุติธรรมไหมถ้าพี่ได้ในส่วนของพี่เท่ากับเกียร์มือ สอง , สำหรับผม ผมว่ามันไม่ยุติธรรม , ผมถึงบอกพี่ว่า ถ้าพี่จ่ายเพิ่มอีกไม่กี่หมื่นไม่ได้ แลกกับของดีรับประกัน 1 ปี พี่ก็เอาเงิน 9 หมื่นกว่าไปวัดดวงมือสองเถอะครับ , ผมอยู่เฉยๆไม่เอาตัวเข้าไปรับปัญหาดีกว่า
ลูกค้า : ก่อนที่ผมจะโทรมาหาคุณผมลองเช็คอะไหล่ในวรจักรแล้ว และอะไหล่บางตัวที่ไม่มีผมก็เช็คจากเว็บไซต์ต่างประเทศแล้วราคารวมรวมกันก็ไม่กี่หมื่น
เอ. เอ็ม : ยัง…..ยังไม่จบใช่ไหมเนี่ย (คิดในใจ )
เอ. เอ็ม : อะไหล่ที่พี่ว่า พี่คูณค่าเงินบาท บวกค่าภาษี บวกค่าขนส่ง บวกทุกอย่างแล้วเป็นเงินเท่าไหร่ที่จะออกจากกระเป๋าพี่ ? , หลังจากพี่ได้อะไหล่ใหม่มาแล้ว พี่เสกอะไหล่เก่าออกมาจากเกียร์ แล้วเสกอะไหล่ใหม่เข้าไปในเกียร์ได้ไหมครับ ? พี่ก็ต้องมีเครื่องมือที่ถูกต้องในการทำงานใช่ไหมครับ ? ซึ่งอู่ทุกอู่เขาก็ต้องลงทุนซื้อเครื่องมือสร้างเครื่องมือและนั่นมันก็คือต้นทุน, พี่จะมองแค่ต้นทุนในส่วนของ raw materials แล้วพี่ไปมองที่ Finished goods แล้วบอกว่าคุณเอากำไรเยอะจัง , แล้วต้นทุนในส่วนอื่นๆพื่ไม่เอามารวมหรือครับ , ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างช่าง ค่าเช่าที่ ค่าประกันงานซ่อม 1 ปี , อู่ไหนที่ไม่มีการรับประกัน ก็ตัดต้นทุนในส่วนของการรับประกันออกไปได้ ราคาก็จะถูกลงกว่าอู่ที่รับประกัน, ไหนไหนก็จะยาวแล้วก็เอาให้สุดซอยเลยนะกัน ,ขอโทษนะครับพี่ ตอนนี้พี่ทำงานอะไรหรือมีอาชีพอะไรครับ ?
ลูกค้า : ทำไมผมต้องบอกคุณ มันไม่ใช่ธุระอะไรของคุณที่จะต้องมารู้ว่าผมมีอาชีพอะไร
เอ. เอ็ม : ผมก็แค่อยากจะรู้ว่าพี่มองโลก มองชีวิตยังไง มองอาชีพของคนอื่นยังไง มองว่าอาชีพของคนอื่นเอาเปรียบพี่, ทุกคนเอาเปรียบพี่หมดเลย แล้วงานของพี่ ธุรกิจของพี่ถูกต้องอยู่คนเดียวใช่ไหม ,
-- ถ้าพี่เป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งออกมาปากซอยคิด 20 บาท แล้วผมบอกว่าโอ้โห...ค่าน้ำมันไม่ถึง 10 บาทกำไรเกินครึ่งเลยนะเนี่ย , พี่ก็คงคิดในใจว่าทำไม มึงไม่ซื้อแล้วเอามาขับเอง ซื้อหมวกกันน็อคเอง จ่ายเงินเติมน้ำมันเอง รับความเสี่ยงโดนชนโดนเฉี่ยวล้มตายเอาเอง
-- ถ้าพี่เป็นช่าง แล้วหลังคาบ้านชั้น 2 ของผมรั่วให้พี่มาซ่อมพี่คิด 2,500 ถึง 3,000 ผมบอกว่าโอ้โห ...กระเบื้องแผ่นหนึ่งไม่ถึง 300 เลยกำไรเยอะมากเลยนะเนี่ย , พี่ก็คงคิดในใจว่าทำไมมึงไม่ไปซื้อกระเบื้องเองแล้วซื้อนั่งร้านเองปีนขึ้นไปเปลี่ยนเองยอมรับความเสี่ยงเองถ้าตกลงมาแข้งขาหักหรือคอหักตาย
-- ถ้าพี่ขายหมูปิ้งไม้ละ 10 บาท ,ผมบอกว่าหมูไม่กี่ชิ้นต้นทุนไม่ถึง 5 บาท ,พี่ได้กำไรเกินครึ่งเลยนะเนี่ย , พี่ก็คงคิดในใจว่าทำไมมึงไม่ไปซื้อหมูแล้วมาหั่นเอง, มาเสียบไม้มานั่งปิ้งนั่งย่างเอง,สูดควันพิษทุกวันทุกวัน, รับความเสี่ยงเป็นโรคทางเดินหายใจเสี่ยงเป็นโรคปอด เอง
-- ถ้าพี่เปิดร้านอาหารตามสั่งผัดข้าวอยู่หน้าปากซอยผมสั่งข้าวผัดทะเล, พี่คิดจานละ 70 ผมบอกว่าพี่กำไรเยอะจังกุ้ง 2 ตัวปลาหมึก 4 ชิ้นทำไมขายตั้ง 70 บาท , พี่คงคิดในใจ ทำไมมึงไม่เดินเข้าไปตลาดซื้อกุ้งซื้อหมึกมานั่งทำมานั่งหันมานั่งล้างเอง ซื้อกระทะ ซื้อตะหลิว ซื้อเตาแก๊ส ซื้อน้ำมันมาผัดเองล่ะ
-- ถ้าพี่เป็นบริษัทแก้ปัญหาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้กับบริษัทขนาดใหญ่หรือโรงงานขนาดใหญ่พี่คิดค่าบริการวันละ 15,000 ผมมาดู log file เห็นพี่ coding program เพิ่มไม่กี่บรรทัดพี่ได้กำไรเยอะมากเลยนะครับ ,พี่คงคิดในใจ ถ้ามึงเก่ง มึงเจ๋ง มึงทำได้ ทำไมไม่ทำเองล่ะครับ
-- ถ้าพี่เป็นบริษัทคอนเซาท์รับติดตั้งเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีประสบการณ์เยอะมาก แก้ไขปัญหาเครื่องจักรได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ,พี่มาเดินดูรอบรอบเครื่องจักรของผมแล้วเอาค้อนเคาะโป้งโป้ง 2 ที พี่รับตังค์ 200,000 , ผมต้องเสียตังค์ให้พี่ 200,000 แลกกับค่าเอาค้อนเคาะ 2 ทีมันไม่ยุติธรรมกับผมเลย , พี่คงคิดในใจถ้ามันไม่ยุติธรรมทำไมมึงไม่เคาะเองล่ะ เครื่องนี้ราคา 20 ล้านเอง กล้าหรือเปล่า , คุณก็พยายามทำทุกอย่างมา 3 อาทิตย์แล้วไม่ใช่เหรอ แล้วมันก็ยังทำงานไม่ได้ คุณถึงได้ขอใบเสนอราคามาที่ผม ,ผมก็แจ้งราคามาเรียบร้อยแล้ว ,คุณก็ยอมรับแล้วว่าถ้าทำให้เครื่องใช้งานได้ยินดีจ่ายในราคา 200,000
เอ. เอ็ม : ฮัลโหล ,Hello it’s me I was wondering …. (Adele) พี่ยังอยู่ไหมครับ , พี่เห็นไหมครับทุกอาชีพมีต้นทุน บางอาชีพมีต้นทุนในส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือสิ่งของที่จับต้องได้ ,บางอาชีพก็ต้องลงทุนในส่วนของความรู้ความสามารถในตัวเอง ,อาจจะต้องไปเรียนวิชาการอย่างใดอย่างหนึ่งเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบอาชีพของตัวเอง , โลกของผมมันไม่ได้สวยงาม ,โลกของผมมันคือโลกความจริงและสิ่งต่างๆที่กล่าวมามันก็เป็นจริงอยู่อย่างนั้น
ลูกค้า : @#%#!#$%% ตี๊ด ๆ ๆ ๆ
เอ. เอ็ม : วางสายไปละ ….สงสัยรีบไปวิ่งเล่นไล่จับผีเสื้ออย่างมีความสุขในทุ่งลาเวนเดอร์ (คิดในใจ)
No comments:
Post a Comment